เมื่อโครนัสยึดอำนาจจากอูรานอสจอมบิดาได้แล้ว ก็ได้ขึ้นเถลิงอำนาจเป็นจอมเทพแห่งเขาโอลิมปัสสืบแทนจอมบิดา และได้แบ่งปันอำนาจหน้าที่ให้พี่ๆ ที่เป็นไทแทน คือ
โอเชียนัส-เป็นเทพคุ้มครองมหาสมุทรและแม่น้ำ
ซีอัส-เป็นเทพแห่งภูมิปัญญา
ครีอัส-เป็นเทพคุ้มครองฝูงแกะ
ไฮเพอร์เรียน-เป็นเทพคุ้มครองดวงอาทิตย์และไฟ
ไอแอพิทัส-เป็นเทพสงคราม
เธีย-เป็นเทพีแห่งการมองเห็น
รีอา-เป็นเทพีคุ้มครองการแต่งงาน
ธีมิส-เป็นเทพีความยุติธรรม
ธีทิส-เป็นเทพีคุ้มครองเด็กและสายน้ำใต้ดิน
เนโมซินี-เป็นเทพีแห่งความทรงจำ
ฟีบี-เป็นเทพีแห่งความฉลาด
จากนั้นบรรดาเทพไทแทนต่างก็มีคู่ครอง แต่อาจเป็นเพราะสวรรค์ยังมีเทพจำนวนน้อย เทพไทแทนส่วนใหญ่จึงจับคู่แต่งงานกันเองในระหว่างพี่น้อง
โครนัสครองอำนาจเหนือเหล่าเทพทั้งปวงอยู่ ณ สวรรค์โอลิมปัสเป็นสุขสงบมาแสนนาน เป็นยุคสมัยแห่งความยิ่งใหญ่ของเทพไทแทน
จนกระทั่งวันหนึ่งพระนางรีอาก็ให้กำเนิดเทพบุตรองค์แรก คำสาปของอูรานอสจอมบิดาก็ผุดขึ้นในความทรงจำของโครนัสทันที โครนัสจึงรีบไปหาพระนางรีอาและจับเทพบุตรนั้นกลืนกินเสีย หลังจากนั้นโครนัสก็ยังกลืนกินเทพบุตรและเทพธิดาองค์ต่อๆ มาอีกรวม 5 องค์
พระนางรีอาพยายามขอร้องให้โครนัสไว้ชีวิตบุตรที่เกิดใหม่ แต่โครนัสกลัวคำสาบแช่งของจอมบิดาจึงไม่ยอมฟัง พระนางรีอาจึงปรึกษากับจอมมารดาจีอาและวางแผนช่วยชีวิตบุตรองค์ต่อไปให้รอดพ้นจากการถูกโครนัสกลืนกินให้จงได้
ครั้งถึงเวลาประสูติบุตรองค์ต่อไป เป็นเทพบุตรชื่อว่า ซูส (Zeus) พระนางรีอาก็เอาซูสไปซ่อนเสียก่อนที่โครนัสจะมาถึง ส่วนจอมมารดาจีอาก็เอาหินก้อนหนึ่งมาห่อผ้าไว้ทำทีว่าเป็นเด็กเกิดใหม่ให้พระนางรีอาอุ้มไว้
โครนัสได้ข่าวการประสูติของเทพบุตรองค์ใหม่ ก็รีบมาหมายจะจับกินเสีย พระนางรีอาแสร้งทำเป็นอ้อนวอนขอชีวิตไว้แต่โครนัสไม่ยินยอมเช่นเดิม โครนัสแย่งผ้าห่อก้อนหินไปจากพระนางรีอาและกลืนกินลงท้องไปโดยเข้าใจว่าเป็นบุตรที่เกิดใหม่แล้วก็กลับไป
โครนัสกลับไปแล้วพระนางรีอาก็จัดแจงฝากฝังซูสให้นางอัปสรนีเรียด ธิดาของผู้เฒ่าทะเลนีรูส นำไปเลี้ยงดู นางอัปสรจึงพาซูสไปเกาะครีตโดยนำซูสไปไว้ในถ้ำบนยอดเขาไอคา และเลี้ยงดูด้วยน้ำนมจากนางแพะชื่อว่า แอมัลเธีย (Amalthea) โดยมีกลุ่มสาวกของพระนางรีอา เรียกว่า คิวรีทิส ทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนสรรพวิชาให้ซูส
ระหว่างที่ซูสยังเป็นทารก น้อย นางอัปสรนีเรียดต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้โครนัสรู้ว่าซูสยังมีชีวิตอยู่ โดยการผูกเปลกับต้นไม้ให้ซูสนอน โครนัสที่คอยสอดส่องทั้งบนสวรรค์และบนดินจึงมองไม่เห็นซูสที่ไม่ได้อยู่ทั้ง บนสวรรค์และบนแผ่นดิน
นอกจากนี้ เหล่าคิวรีทิสก็ช่วยกันคิดค้นเพลงเต้นรำแบบหนึ่งขึ้น เพลงเต้นรำแบบนี้ต้องใช้เสียงประสานของอาวุธที่อึกทึกจนกลบเสียงร้องของซูส ไว้ไม่ให้ได้ยินไปถึงสวรรค์
ฝ่ายโครนัสสำคัญผิดว่าคำสาปของจอม บิดาไม่เป็นผลแล้วก็สิ้นวิตก มิได้แยแสกับเสียงเอ็ดอึงของเหล่าคิวรีทิส ทำให้ซูสสามารถดำรงค์ชีวิตอยู่ได้จนเติบใหญ่เป็นเทพบุตรหนุ่มที่แข็งแรง และได้นำหนังนางแพะแอมัลเธียที่ตายไปแล้วมาทำเป็นโล่ห์ประจำตัว
เทพบุตรหนุ่มซูสกลับมารบกับโครนัสผู้เป็นบิดา ในที่สุดโครนัสก็เป็นฝ่ายปราชัยให้แก่ซูสที่มีพลกำลังเหนือกว่า ซูสจับตัวโครนัสไว้และปรึกษาพระนางรีอาผู้เป็นมารดาว่าจะทำอย่างไร
พระนางรีอาแนะนำให้มีทิสธิดาของโอเชียนัส ปรุงยาสำรอกและบังคับให้โครนัสดื่ม โครนัสดื่มยานั้นไปแล้วจึงได้สำรอกเทพบุตรและเทพธิดาที่กลืนลงท้องไปออกมา หมดทุกองค์ รวมทั้งหินที่เข้าใจว่าเป็นซูสด้วย
เทพบุตรและเทพธิดา พี่ๆ ของซูสที่โครนัสสำรอกออกมา คือ เฮสเทีย (Hestia) ดีมิเตอร์ (Demeter) ฮีรา (Hera) ฮาเดส (Hades) และโพไซดอน (Poseidon) ตามลำดับ
สำหรับก้อนหินที่โครนัสสำรอกออกมาด้วยนั้น ภายหลังได้เอาไปเก็บรักษาไว้เป็นที่เคารพบูชาแทนองค์ซูส ณ วิหารเดลฟี (Delphi) จากนั้นซูสก็เนรเทศโครนัสออกไปจากเขาโอลิมปัส
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : http://www.dvdgameonline.com/forums/index.php?app=blog&blogid=48&showentry=227
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น