วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

ภรรยาของซุส 2


~ซีมิลี~

           เรื่องราวของนางซีมิลีนั้นต่อเนื่องจากเรื่องราวของยูโรปา คือ เมื่อยูโรปาหายตัวไป ท้าวอจีนอร์ก็ให้โอรสทั้งสาม คือ แคดมัส ฟินิกซ์ และซิลิกซ์ ออกติดตามหายูโรปาโดยสั่งว่าถ้าไม่พบก็ไม่ต้องกลับมา โดยงานนี้พระมารดาของทั้งสามก็ขอติดตามไปด้วย ทั้งสี่คนออกติดตามหายูโรปา แต่ไม่ว่าจะค้นหาอย่างไรก็ไม่มีแม้แต่ข่าวคราว

         ฟินิกส์เป็นคนแรกที่หมดความพยายาม พอพบถิ่นฐานที่อุดมสมบูรณ์ก็หยุดตั้งหลักปักฐาน

        ซิลิกซ์เป็นคนที่สองที่เลิกตามหายูโรปา และหยุดตั้งหลักในที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง

          ต่อมาพระมารดาก็หมดแรงตามต่อไปไม่ไหว และได้สั่งให้แคดมัสออกติดตามต่อไปก่อนที่พระนางจะสิ้นใจ

          แคดมัสติดตามหายูโรปาต่อไป จนวันหนึ่งเขาก็มาถึงวิหารเดลฟี ซึ่งเป็นที่บูชาเทพอพอลลอน แคดมัสได้เสี่ยงทายกับเทพอพอลลอน แต่คำทำนายที่ได้ไม่ทำให้แคดมัสได้รับความกระจ่างแต่อย่างใด เพราะคำทำนายนั้นบอกว่าให้แคดมัสเดินตามโคตัวหนึ่งไป เมื่อโคหยุดก็ให้แคดมัสตั้งบ้านเมืองที่นั่น

          แคดมัสทำตามคำพยากรณ์นั้น เขาได้สร้างเมืองขึ้นชื่อว่า ธีบส์ และซูสมหาเทพได้ประทานนางเฮอร์ไมโอนี ธิดาของเทพแอรีสกับอโฟรไดทีมาให้เป็นชายา

         แคดมัสกับเฮอร์ไมโอนี มีธิดา 4 คน คือ ซีมิลี ไอโน ออโทโนอี และอเกวี

       ซีมิลีนั้นมีความสวยงามต้องตามหาเทพซูส จนซูสลักลอบหนีพระนางฮีราแปลงร่างเป็นมนุษย์มาได้นางเป็นชายาอยู่บ่อยๆ แต่ความลับไม่มีในโลก ในที่สุดพระนางฮีราก็รู้เรื่องจนได้

         พระนางฮีราได้แปลงองค์เป็นพี่เลี้ยงชราของซีมิลี และแกล้งซักถามซีมิลีว่าคนรักของนางเป็นใคร ซึ่งซีมิลีก็ตอบด้วยความซื่อว่าเป็นมหาเทพซูส

          พระนางฮีราจึงยุให้นางซีมิลีขอดูองค์มหาเทพในร่างจริง และบอกว่าก่อนขอต้องให้มหาเทพสาบานกับแม่น้ำสติกซ์เสียก่อน


Posted Image


            นางซีมิลีหลงเชื่อคำยุ เมื่อเจอหน้ามหาเทพจึงเอ่ยปากขอให้ซูสสาบานกับแม่น้ำสติกซ์ว่าพระองค์จะ ประทานสิ่งที่นางขออย่างหนึ่ง ซึ่งมหาเทพก็สาบาน จากนั้นนางซีมินีก็ขอดูร่างพระสวามีในร่างเทพ

         มหาเทพซูสตกใจด้วยรู้ว่าหากพระองค์ปรากฎในร่างมหาเทพ นางซีมิลีจะทนรัศมีของพระองค์ไม่ได้และจะมอดไหม้เป็นจุนไป แต่เมื่อสาบานกับแม่น้ำสติกซ์แล้วมหาเทพก็ไม่อาจทวนคำสาบานได้

         มหาเทพจำเป็นต้องปรากฎองค์ในร่างเทพ ซึ่งนางซีมิลีทนรัศมีของมหาเทพไม่ได้ก็มอดไหม้ตายไป และวิญญานก็ลงไปอยู่ยมโลก

         ในขณะนั้น นางซีมิลีกำลังตั้งครรภ์อยู่ แม้จะช่วยนางซิมิลีไม่ได้ แต่มหาเทพซูสก็ช่วยทารกในครรภ์ได้โดยคว้าเอาทารกนั้นมาเก็บไว้ในเข่าของตน เอง ภายหลังทารกนี้ได้คลอดออกมาชื่อว่าไดโอนิซัส และเทพเฮอร์เมสได้รับเอาไดโอนิซัสนี้ไปให้นางอัปสรที่ทุ่งนีสาเลี้ยงไว้

         ไดโอนิซัสเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งเทพ แต่หนักไปทางเทพมากกว่าจึงมีความเป็นอมตะดั่งเทพ แต่ก็ชอบเดินทางท่องเที่ยวบนผืนแผ่นดินดังเช่นมนุษย์

         ไดโอนิซัสเป็นเทพแห่งเหล้าองุ่น และเป็นที่ยอมรับของพระนางฮีรา เพราะเมื่อครั้งเฮฟิสทัสทำเก้าอี้กลจับพระนางมัดติดเก้าอี้ไว้ เทพเฮอร์เมสไปเกลี้ยกล่อมก็ไม่สำเร็จ พอไดโอนิซัสไปเกลี้ยกล่อมบ้าง เฮฟิสทัสก็ยินยอมปล่อยพระมารดา ตั้งแต่นั้นพระนางฮีราจึงยอมรับไดโอนิซัส

        เนื่องจากไดโอนิซัสมีเชื้อสายมนุษย์ด้วย เมื่อครั้งต้องต่อสู้กับไทแทน ไดโอนิซัสก็ถูกจับฉีกร่างจนเสียชีวิต วิญญานไดโอนิซัสล่องลอยลงไปในยมโลกและได้พบกับนางซิมิลีมารดา

        ไดโอนิซัสจะพาซิมิลีขึ้นสวรรค์ แต่เทพฮาเดสไม่ยอม ทั้งสองจึงเถียงกันว่าใครจะเหนือกว่าใคร ไดโอนิซัสบอกว่าตนเองเหนือกว่าเพราะตายได้ดั่งมนุษย์ แต่ฟื้นได้เพราะเป็นอมตะแบบเทพ เทพฮาเดสยอมแพ้ จึงยอมให้ไดโอนิซัสพามารดากลับไปได้ ไดโอนิซัสจึงพานางซิมิลีขึ้นไปอยู่บนโอลิมปัส จึงนับว่านางเป็นเพียงมนุษย์หนึ่งเดียวที่เป็นอมตะ และอยู่บนโอลิมปัสเช่นเดียวกับเหล่าเทพ

~ไอโอ~

           ไอโอ เป็นธิดาของท้าวอินนะคัสเจ้าเมืองอาร์กอสโอรสของเทพไทแทนโอเชียนัสกับเทวีธี ทิส เมื่อโตขึ้นไอโอได้ทำหน้าที่เป็นผู้ทำพิธีบวงสรวงเทพีฮีรา

           ซูสเห็นความงามของไอโอก็ลอบมาได้นางเป็นชายา และเพื่อปกปิดให้รอดพ้นสายตาของพระนางฮีรา เวลาที่ซูสมาหาไอโอพระองค์ก็จะเนรมิตเมฆหมอกปกคลุมเอาไว้

          แต่ความลับนี้ไม่สามารถเก็บไว้ได้ตลอด เพราะวันหนึ่งพระนางฮีราได้แอบติดตามซูสมาและเกิดสงสัยเมฆหมอกเนรมิตนั้น พระนางจึงใช้ฤทธิ์ขับไล่เมฆหมอกให้จางหายไป

           ซูสต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการแปลงร่างไอโอให้กลายเป็นโคและบอก พระนางฮีราว่าพระองค์เนรมิตโคนี้ขึ้นเองจากก้อนดิน ซึ่งพระนางฮีรารู้ทันจึงเอ่ยปากขอโคจากพระสวามี ซูสจึงต้องจำใจมอบโคให้พระนางฮีราเพราะเกรงว่าความลับจะแตก

          พระนางฮีราได้นำโคแปลงนั้นไปให้อาร์กัสผู้มีตาร้อยดวงเฝ้าไว้ป้อง กันซูสมาพานางกลับไป แต่ซูสก็คิดหาทางแก้ไขได้โดยการให้เฮอร์เมสไปกำจัดอาร์กัสเสีย

Posted Image
            
           เฮอร์เมสจำแลงกายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไปเป่าปี่ต้นอ้อและเล่านิทานให้อาร์กัสฟัง ซึ่งอาร์กัสก็เกิดความเคลิบเคลิ้มเผลอหลับไป เฮอร์เมสจึงฆ่าอาร์กัสตายและปลดปล่อยไอโอได้สำเร็จ พระนางฮีราจึงได้นำดวงตาของอาร์กัสไปติดไว้ที่หางนกยูงจนทำให้หางนกยูงมีลวดลายรูปดวงตาจนถึงทุกวันนี้

         เคราะห์กรรมของไอโอยังไม่สิ้น เพราะพระนางฮีราได้ร่ายมนต์ป้องกันไม่ให้นางคืนร่างเป็นมนุษย์ แถมยังส่งเหลือบมากัดไอโอในร่างโคให้ทรมานอีกด้วย

          ไอโอกระเซอะกระเซิงไปทั่ว ทั้งแถบทะเลไอโอเนีย ที่ราบอิลลิเรีย เขาฮีนัส ข้ามช่องแคบบอสฟอรัส

        วันหนึ่งไอโอขึ้นไปถึงยอดเขาคอเคซัส ได้พบกับเทพโปรมิธิอุส*ที่ถูกซูสลงโทษจองจำอยู่บนหน้าผาเพราะเหตุขโมยไฟจาก สวรรค์มาให้มนุษย์ใช้ โปรมิธิอุสได้ช่วยทำนายว่าไอโอจะคืนร่างเป็นมนุษย์ได้เมื่อเดินทางถึงแม่น้ำ ไนล์ ไอโอจึงดั้นด้นเดินทางต่อไปจนถึงแม่น้ำไนล์

        ขณะเดียวกัน ซูสก็อ้อนวอนง้องอนเทพีฮีราจนพระนางใจอ่อนยอมคลายมนต์ให้ ไอโอจึงได้คืนร่างกลับเป็นคนที่แม่น้ำไนล์นั่นเอง

          ณ ที่นั้น ไอโอได้ให้กำเนิดโอรสชื่อ เอพาฟัส ซึ่งต่อมาได้ตั้งนครที่มีชื่อเสียงในอียิปต์ ชื่อว่า นครเมมฟิส และเชื้อสายรุ่นที่ 11 ของเอพาฟัสคนหนึ่งเป็นวีรบุรุษคนสำคัญ ชื่อว่า เฮรากลิส ได้กลับมาช่วยปลดปล่อยโปรมิธิอุสให้เป็นอิสระได้

~ไดโอนี~

         ไดโอนี เป็นธิดาของเอปิธิอุส เป็นชายาอีกองค์หนึ่งของซูส

        ตำนานของไดโอนีค่อนข้างสับสน ชาวกรีกโบราณนับถือว่าไดโอนีเป็นมเหสีของซูสก่อนที่พระนางฮีราจะได้ตำแหน่งนี้ไปครองแทนในภายหลัง

       และบางตำนานก็ว่าเทพีอโฟรไดทีนั้นเป็นธิดาของซูสกับไดโอนีด้วย

Posted Image
          
~ซิลีน~

           ซิลีนเป็นธิดาของเทพไทแทนไฮเพอร์เรียนกับเธีย เป็นเทพธิดาดูแลวิถีโคจรของดวงจันทร์ เป็นเทพธิดาที่ได้ชื่อเรื่องรักๆ ใคร่ๆ

         ซิลีนเป็นชู้รักองค์หนึ่งของซูส แต่ชู้รักที่ซิลีนรักมากที่สุดนั้นคือ เอนดีเมียน หนุ่มเลี้ยงแกะ ซิลีนถึงขนาดขอพรจากซูสเพื่อบันดาลให้เอนดิเมียนนอนหลับไปตลอดกาลเพื่อจะได้ ไม่แก่ไม่ตาย และนางก็ลงมาหาเขาได้ทุกค่ำคืน

Posted Image

              แต่บางตำนานกล่าวถึงความรักกับหนุ่มเลี้ยงแกะแอนดีเมียนนี้ว่าเป็น เทพีอาร์ทีมิส ไม่ใช่ซิลีน ตำนานนี้ค่อนข้างสับสนเนื่องจากทั้งซิลีนและอาร์ทีมิสต่างก็เป็นเทพีแห่งจัน ทราเหมือนกัน เพียงแต่คนละยุคกันเท่านั้น

~คัลลิสโต~

           คัลลิสโต เป็นนางอัปสรบริวารคนสนิทของเทพีอาร์ทีมิส เธอดำรงความเป็นสาวบริสุทธิ์เหมือนเทพีอาร์ทีมิส และชอบล่าสัตว์เหมือนเทพีอาร์ทีมิส เมื่อซูสเกิดต้องตาคัลลิสโตเข้า พระองค์จึงต้องใช้อุบายแปลงร่างเป็นอาร์ทีมิสเข้าไปหานาง และได้นางเป็นชายา

         เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ คัลลิสโตก็พยายามปกปิดไม่ให้เทพีอาร์ทีมิสรู้ แต่วันหนึ่งขณะที่อาบน้ำด้วยกันเทพีอาร์ทีมิสเห็นท้องของคัลลิสโตก็รู้ว่า นางสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เทพีอาร์ทีมิสจึงเนรเทศนางออกไป

          คัลลิสโตให้กำเนิดโอรสตามลำพัง ขณะนั้นพระนางฮีราที่คอยทีอยู่เมื่อเห็นว่าคัลลิสโตอยู่ตามลำพังก็ลงมาสาบนางให้เป็นหมี

Posted Image

            ส่วนโอรสของคัลลิสโตนั้นเทพเฮอร์เมสได้พาไปให้นางไมอา มารดาของพระองค์ช่วยเลี้ยงดู โอรสองค์นั้นชื่อว่าอาร์คัส ซึ่งแปลว่าหมี และเมื่อโตขึ้นอาร์คัสก็ได้เป็นนายพรานตามรอยมารดาของตน

          ต่อมาวันหนึ่งอาร์คัสเข้าป่าล่าสัตว์ นางคัลลิสโตเห็นบุตรของตนเองก็จำได้จึงเข้ามาหา อาร์คัสตกใจจึงใช้หอกแทงคัลลิสโตในร่างของหมีตาย ซูสจึงบันดาลให้คัลลิสโตกลายเป็นกลุ่มดาวหมีใหญ่อยู่บนฟ้า และให้อาร์คัสบุตรชายกลายเป็นดาวหมีเล็กอยู่เคียงข้างกัน

         พระนางฮีรานั้นยังไม่หายโกรธชายาน้อยองค์นี้ของซูส พระนางจึงได้ให้ทีธิสช่วยลงโทษสองแม่ลูกที่ตอนนี้กลายเป็นดาวบนฟ้าไปแล้วให้ ด้วย ซึ่งทีธิสก็บันดาลให้ดาวหมีใหม่และหมีเล็กลอยอยู่บนฟ้าตลอดเวลา ไม่มีโอกาสลงมาพักบนโลกตลอดกาล และนี่เองที่เป็นสาเหตุให้กลุ่มดาวหมีใหญ่และดาวหมีเล็กต้องลอยล่องอยู่บน ฟ้าตลอดปี ไม่มีช่วงเวลาที่ลับขอบฟ้าเหมือนดาวดวงอื่นๆ


ติดตามตอนต่อไป 









ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.dvdgameonline.com/forums/index.php?app=blog&module=display&section=blog&blogid=48&showentry=266




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น